Medical Blog

การรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยสเต็มเซลล์

ระบบร่างกายของคนเราจะถูกซ่อมแซมและฟื้นฟูเมื่อได้รับอันตรายต่าง ๆ อยู่เสมอ สเต็มเซลล์จะถูกกระตุ้นเพื่อเพิ่มจำนวนและเปลี่ยนเซลล์ใหม่ให้อวัยวะมีความสมดุล เช่น หากผิวหนังมีบาดแผล เซลล์ผิวหนังจะสร้างและฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังใหม่ ทำให้บาดแผลสมานจนเป็นปกติ นั่นเกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ถูกทำลายไปกระตุ้นการหลั่งสาร ๆ หนึ่งเพื่อสร้างเซลล์ผิวหนังให้คงสภาวะปกติ แต่ในอวัยวะบางอย่าง เช่น หัวใจและสมอง การฟื้นฟูเซลล์ให้กลับไปเป็นปกติได้เองนั้นเป็นไปได้ยาก ด้วยเหตุนี้จึงมีการศึกษาโดยใช้สเต็มเซลล์เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูอวัยวะที่ถูกทำลาย

หลักการของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์

  1. การเปลี่ยนแปลงของสเต็มเซลล์ไปสู่เซลล์ที่ต้องการซ่อมแซมและฟื้นฟู (อาจฉีดเข้าที่บริเวณรอยโรคหรือฉีดเข้าเส้นเลือด)
  2. สเต็มเซลล์ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เป้าหมายที่ต้องการซ่อมแซมหรือฟื้นฟูนั้นมีลักษณะหรือความจำเพาะเฉกเช่นเดียวกับเซลล์รอบข้าง เช่น สเต็มเซลล์ที่ฉีดเข้าไปเพื่อรักษาเบาหวานที่ตับอ่อน เซลล์ใหม่ที่มาจากสเต็มเซลล์นั้นก็จะต้องสามารถหลั่งอินซูลินได้
  3. คุณลักษณะจำเพาะของสเต็มเซลล์ที่ปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและหลั่งสารต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์หรืออวัยวะที่สึกหรอได้ คุณสมบัติสุดท้าย คือ คุณสมบัติพิเศษของสเต็มเซลล์ที่แตกต่างจากการรักษาอื่น ๆ เมื่อโรคหายแต่เซลล์ก็ถูกทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพลงแล้ว เพราะคุณสมบัตินี้สเต็มเซลล์จึงเป็นเซลล์ที่ได้รับการนำมารักษาโรคพันธุกรรมอีกด้วย ดังนั้นแท้จริงแล้วสเต็มเซลล์ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด หากแต่เพียงเพิ่งนำมาใช้ให้เป็นที่รู้จักเท่านั้นเอง

โรคที่นำมารักษาด้วยสเต็มเซลล์ มีดังนี้

มีการศึกษาการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ที่ได้จากรกและสายสะดืออยู่หลายโรค ตั้งแต่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) ภาวะผิวหนังถูกไฟไหม้ เส้นเลือดสมองตีบ โรคออทิสติก โรคเส้นเลือดอุดตันที่ขา โรคหัวใจขาดเลือดและการฟื้นฟูโรคกล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเป็นเซลล์ที่หากตายหรือได้รับความสูญเสียนั้น การซ่อมแซมตัวเองของเซลล์หัวใจให้ปกติเป็นไปได้ยากมาก การรักษาภาวะนี้ด้วยสเต็มเซลล์ยังมีข้อมูลไม่มากนักและทำได้ยากมาก แต่การศึกษาที่ผ่านมา การรักษาด้วยสเต็มเซลล์อาจเป็นการรักษาเดียวที่เป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้นอกเหนือไปจากการปลูกถ่ายหัวใจจากผู้บริจาค

โรคเบาหวาน

การปลูกถ่ายตับอ่อนเพื่อรักษาโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่งนั้นประสบผลสำเร็จ การนำสเต็มเซลล์ไปใช้เพื่อให้เปลี่ยนเป็นเซลล์ตับอ่อนชนิดที่สามารถหลั่งอินซูลินได้นั้นต้องใช้สเต็มเซลล์จำนวนมาก และได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและไม่มากหรือน้อยจนเกินไปเพราะหากสเต็มเซลล์สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์ตับอ่อนที่สามารถหลั่งอินซูลินได้มากเกินจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ นอกจากนี้ปัจจุบันยังเชื่อว่าผลการรักษาของสเต็มเซลล์ยังเกิดการหลั่งสารที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการฟื้นฟูของตับอ่อน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟื้นฟูโรคด้วยสเต็มเซลล์

โรคทางระบบประสาทและสมอง

การใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคทางสมองนั้นมีการศึกษาอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะโรคของระบบเส้นประสาท โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) โรคลมชัก โรคหลงลืม โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากเซลล์ประสาท (ALS) โรคหลอดเลือดสมอง โรคพันธุกรรมที่มีผลต่อระบบประสาท โรคพาร์กินสัน การรักษาโรคทางระบบประสาทและสมองด้วยสเต็มเซลล์ที่มีอย่างแพร่หลาย เพราะคุณสมบัติของสเต็มเซลล์เองสามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์ประสาทและทำหน้าที่ซ่อมแซมและฟื้นฟูได้ดี
อ่านเพิ่มเติมสเต็มเซลล์รักษาโรคทางระบบประสาทและสมอง

การรักษาเพื่อฟื้นฟูความเสื่อมของอวัยวะด้วยสเต็มเซลล์นั้นยังมีอีกมากมายทั้ง ผิวหนัง ตา กระดูกอ่อน กระดูก ไต ปอด เส้นเลือดหัวใจ มีการศึกษาวิจัยจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สเต็มเซลล์ที่เพาะเลี้ยงนำไปใช้รักษาและฟื้นฟูโรคได้จริงโดยทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงน้อยที่สุด

แปลจาก HARRISON’S PRINCIPLES OF INTERNAL MEDICINE EDITION 20TH, Chapter 473.

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ได้ที่นี่ คลิก!


See other

“ไครโอวิวา ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์
ผู้นำนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล
อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว”

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับสิทธิพิเศษจากไครโอวิวา



    มีความสนใจบริการด้านไหนของไครโอวิวาเป็นพิเศษหรือไม่?

    This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.