FOR MOMS AND FAMILY บริการเก็บสเต็มเซลล์เพื่อทุกคนในครอบครัว

บริการเก็บสเต็มเซลล์ จาก Cryoviva ที่คุณจะสามารถเก็บสเต็มเซลล์เพื่อเป็นเสมือนหลักประกันทางสุขภาพในอนาคตของลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว ด้วยการเก็บสเต็มเซลล์ราคาคุ้มค่า จากวิทยาการและความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้คุณแม่สามารถเข้ารับบริการเก็บ Stem Cell ได้อย่างปลอดภัย ทั้งสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือ และเยื่อหุ้มรกของลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอด รวมไปถึงสเต็มเซลล์มีเซนไคมอลจากไขมันภายในร่างกายของคุณแม่เอง

เพราะความมหัศจรรย์ของสเต็มเซลล์นั้นคือความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปเป็นเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เมื่อเซลล์บริเวณนั้นเสื่อมสภาพ สเต็มเซลล์จะเป็นสิ่งที่จะเข้ามาทดแทนเซลล์ที่สูญเสียหรือถูกทำลายจากโรคร้ายและความเสื่อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้กลับมาทำหน้าที่ภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม

เพราะเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งแรกที่ต้องเตรียมพร้อม
วางแผนเก็บสเต็มเซลล์ได้แล้ววันนี้ ที่ Cryoviva

ดูแล วางแผน และดำเนินการด้วยห้องปฏิบัติการที่มีการรับรองระดับโลก

โอกาสสำคัญเพื่อลูกน้อยและทุกคนในครอบครัว

การเก็บสเต็มเซลล์หลังจากการคลอดบุตร เป็น ‘โอกาสเดียว’ ที่คุณแม่จะสามารถเลือกเก็บ Stem Cell กับลูกน้อย เพื่อได้เซลล์ที่มีความสมบูรณ์สำหรับนำไปใช้กับตัวลูกน้อยเองและครอบครัวในอนาคต เนื่องจากการเก็บสเต็มเซลล์หลังคลอดนั้นมีข้อดีคือเซลล์จะมีความอ่อนเยาว์ที่สุด เมื่อเทียบกับสเต็มเซลล์จากแหล่งอื่น ๆ นั่นเอง

ด้วยเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้การดูแลสุขภาพในรูปแบบแพทย์ทางเลือกเป็นโอกาสที่สามารถดูแลและรักษาสุขภาพได้มากขึ้น ซึ่งหากคุณเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และกำลังวางเเผนเก็บ Stem Cell ราคาคุ้มค่าหลังคลอดเพื่อเป็นประกันชีวิตลูกในอนาคต Cryoviva เรามีผู้เชี่ยวชาญค่อยให้คำปรึกษาและร่วมกันวางเเผนการเก็บสเต็มเซลล์ให้มีความคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับคุณและครอบครัว

“เก็บสเต็มเซลล์…โอกาสครั้งเดียวในชีวิต เพื่อลูกน้อยและทุกคนในครอบครัว”

…ปรึกษาเรา…

คุณสามารถเก็บสเต็มเซลล์จากแหล่งใดได้บ้าง ? 

สเต็มเซลล์เปรียบเสมือนเป็นเซลล์มหัศจรรย์ที่เป็นหลักประกันทางสุขภาพในอนาคตทั้งของลูกน้อย ตัวคุณเอง และทุกคนในครอบครัว ทำให้ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อสุขภาพในอนาคต ที่มีประโยชน์ในการฟื้นฟูอาการและความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกายที่อาจเกิดขึ้น

ซึ่งบริการ “FOR MOMS AND FAMILY” คุณแม่สามารถเลือกเก็บสเต็มเซลล์ได้จากแหล่งที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ดังนี้

✓ สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ Cord Blood (CB)

✓ สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT)

✓ สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT)

✓ สเต็มเซลล์มีเซนไคมอลจากไขมัน Adipose Derived MSCs (ADSC)

Cord Blood (CB) เลือดสายสะดือ

มหัศจรรย์แห่งสายสะดือ

สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือเป็นแหล่งที่มาสำคัญของ “เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด” และได้ถูกนำมาใช้ในการฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วย ภายหลังจากที่ภูมิคุ้มกันถูกทำลายเนื่องจากได้รับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดและการฉายรังสี โดยสเต็มเซลล์จะถูกนำมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยผ่านทางเส้นเลือดดำและจะเดินทางไปอยู่ในไขกระดูก สเต็มเซลล์จะแบ่งตัว เพิ่มจำนวน และสร้างเม็ดเลือดต่าง ๆ ทำให้ผู้ป่วยกลับมามีเซลล์เม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันที่ปกติ

ในการจัดเก็บเพียงครั้งเดียว สามารถเก็บเซลล์ประเภทใดได้บ้าง?

เมื่อคุณพ่อคุณแม่เก็บเลือดสายสะดือของลูก

กระบวนการจัดเก็บเลือดจากสายสะดือ

สบายใจได้ระหว่างเก็บเลือดสายสะดือ

กระบวนการเก็บเลือดสายสะดือ ไม่มีความเสี่ยงหรืออันตราย ไม่ทำให้แม่และทารกเจ็บปวด เพราะจะเก็บเลือดจากสายสะดือหลังจากที่ทารกคลอดออกมา โดยสายสะดือจะถูกมัดและตัดเรียบร้อยแล้ว

ใช้ได้หลายคนในครอบครัว

สเต็มเซลล์ที่เก็บรักษาไว้เป็นเซลล์ที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับเด็กที่เป็นเจ้าของเลือดจากสายสะดือนั้น ๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสถึง 1 ใน 4 ที่เนื้อเยื่อจะมีความเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับพี่หรือน้องของเด็กด้วย

โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงให้เราช่วยวางแผนได้ตามความต้องการ คลิก! ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ

..นอกจากสายสะดือจะเป็นสายใยที่เชื่อมความผูกพันของแม่กับลูกน้อยแล้ว ยังมีประโยชน์ที่มากไปกว่านั้น..

เนื่องจากสายสะดือนั้น นอกจากจะมีหน้าที่ในการส่งสารอาหารและลำเลียงออกซิเจนจากมารดาไปสู่ทารกในครรภ์ เพื่อการเจริญเติบโตที่แข็งแรงสมบูรณ์ และนำของเสียจากทารกออกสู่มารดาเพื่อป้องกันอันตรายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ ยังเป็นแหล่งรวมเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือและเนื้อเยื่อสายสะดือที่สามารถเก็บได้เมื่อแรกคลอดเพื่อนำไปใช้ในการฟื้นฟูโรคต่าง ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

ซึ่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาและนำสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือนั้นสามารถนำไปใช้รักษาโรคได้สูงถึง 85 โรค จากกลุ่มโรคต่าง ๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับเลือด โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคเกี่ยวกับระบบอาหาร และโรคมะเร็ง 

และนอกจากสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือจะเป็นความหวังทางสุขภาพของลูกน้อยเจ้าของสายสะดือแล้ว ยังมีโอกาสสูงถึง 1 ใน 4 ที่เซลล์จะสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับพี่น้องได้อีกด้วย

โดยในการเก็บ Stem Cell จากเลือดสายสะดือนั้น จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้สายสะดือถูกทำลายทิ้งไปทำให้ต้องพลาดโอกาสสำคัญที่จะรักษาสเต็มเซลล์ไว้ เพราะคุณแม่จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวหลังจากคลอดบุตร จึงจำเป็นจะต้องมีการศึกษาและวางแผนในการเข้ารับการจัดเก็บสเต็มเซลล์กับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถทำการเก็บสเต็มเซลล์ราคาตามแพ็คเกจที่เหมาะสม และสามารถนำมาใช้ได้ตรงกับความต้องการในอนาคต

ตัวอย่างโรค ที่มีการศึกษานำสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือมาใช้ในการฟื้นฟู

Stem Cell จากเลือกสายสะดือจะสามารถฟื้นฟูโรคได้มากถึง 85 โรค จากกลุ่มโรคต่างๆ เหล่านี้

•  กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด
•  กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ
•  กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
•  กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดง
•  กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหาร

---

Cord Tissue (CT) เนื้อเยื่อสายสะดือ

มหัศจรรย์เนื้อเยื่อสายสะดือ

จากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทำให้ค้นพบสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดชนิดใหม่ที่เรียกว่า “ มีเซนไคมอล สเต็มเซลล์ ” (Mesenchymal Stem Cells) หรือ “เอ็มเอสซี” (MSCs) ซึ่งมีศักยภาพสูงในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่าง ๆ ที่มีจุดกำเนิดจากเซลล์ชนิดมีเซนไคมอล อาทิเช่น ไขมัน กระดูกอ่อน กระดูก กล้ามเนื้อ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้กับผู้ใหญ่ในการรักษาโรคทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม

ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับศักยภาพของมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ดังนี้

• โรคข้อเข่าอักเสบ (Osteoarthritis)
• โรคหลอดเลือดขาอุดตัน (Critical Limb Ischemia)
• ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome)
• ภาวะเซลล์ต้นกำเนิดของผู้ให้ต่อต้านร่างกายผู้ป่วยภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ (Graft Versus Host Disease)
• โรคลำไส้อักเสบโครนส์ (Crohn’s Disease)
• โรคเบาหวาน (Diabetes)
• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Multiple Sclerosis)

คุณลักษณะที่โดดเด่นของมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ มีดังนี้

โดยมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์เหล่านี้พบได้ในเนื้อเยื่อสายสะดือ ที่สามารถทำการเก็บ คัดแยก และแช่แข็งไว้เพื่อนำไปใช้ในการรักษาในอนาคต เช่นเดียวกับที่เราเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือที่มีค่าของลูกไว้เพื่อมอบหลักประกัน ให้กับอนาคตที่ไม่อาจทราบได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้โอกาสที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตนี้ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับลูกน้อยและคนในครอบครัว
ด้วยการเก็บรักษาสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือร่วมกับสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ”

โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงให้เราช่วยวางแผนได้ตามความต้องการ คลิก! ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ

อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของสายสะดือ คือการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลและรักษาสุขภาพในอนาคต ทั้งกับลูกน้อย ตัวคุณเอง และทุกคนในครอบครัว

ซึ่งเนื้อเยื่อสายสะดือนั้นเป็นแหล่งรวมของมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ที่ความสามารถในการแบ่งตัวไปเป็นเซลล์ประเภทต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ไขมัน กระดูก หรือกระดูกอ่อน และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับตัวลูกน้อยเจ้าของสายสะดือสามารถแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนได้มากกว่ามีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ที่เก็บจากไขกระดูก สามารถจัดเก็บและนำไปใช้ได้หลายครั้ง รวมถึงสามารถจัดเก็บ Stem Cell ได้อย่างไม่เจ็บปวด

และนอกจากสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือจะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับลูกน้อยแล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย 

ตัวอย่างโรค ที่มีการศึกษานำสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือมาใช้ในการฟื้นฟู

• โรคข้อเข่าอักเสบ (Osteoarthritis)
• โรคหลอดเลือดขาอุดตัน (Critical Limb Ischemia)
• ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome)
• ภาวะสเต็มเซลล์ของผู้ให้ต่อต้านร่างกายผู้ป่วยภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ (Graft Versus Host Disease)
• โรคลำไส้อักเสบโครนส์ (Crohn’s Disease)
• โรคเบาหวาน (Diabetes)
• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Multiple Sclerosis)

---

Amnion Tissue (AT) เนื้อเยื่อหุ้มรก

เยื่อหุ้มรกเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสเต็มเซลล์สองชนิดด้วยกัน คือ เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อบุผิว (Epithelial Stem Cells) และมีเชนไคมอลสเต็มเซลล์ (Mesenchymal Stem Cells) ซึ่งพบว่าสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้เยื่อหุ้มรกเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสเต็มเซลล์สองชนิดด้วยกัน คือ เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อบุผิว (Epithelial Stem Cells) และมีเชนไคมอลสเต็มเซลล์ (Mesenchymal Stem Cells) ซึ่งพบว่าสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกนี้มีคุณลักษณะเฉพาะที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อได้ทุกชนิด

การศึกษาวิจัยยังพบว่าสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกนั้นนอกจากพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์กระดูก กระดูกอ่อน และไขมันแล้ว ยังพบว่ามีความสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นการศึกษาวิจัยยังพบว่าสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกนั้นนอกจากพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์กระดูก กระดูกอ่อน และไขมัน ซึ่งมีการศึกษาวิจัยทางคลินิกพบว่าได้ผลดีในการนำไปรักษาโรคทางสมองและโรคทางระบบประสาท เช่น อัมพาต (Stroke) การบาดเจ็บที่สมองและไขสันหลัง พาร์กินสัน (Parkinson’s Disease) อัลไซเมอร์ (Alzheimer’s) เป็นต้น

นอกจากนี้สเต็มเซลล์ที่เพาะได้จากเนื้อเยื่อหุ้มรกจะสามารถนำไปใช้รักษาซ่อมแซมฟื้นฟูในส่วนต่าง ๆ ที่ร่างกายเสื่อมโทรมลงหรือมีความบกพร่องในตัวผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาด้านระบบประสาทที่ดีที่สุดในอนาคตอีกด้วย

โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงให้เราช่วยวางแผนได้ตามความต้องการ คลิก! ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ

สเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกสำหรับเเม่ตั้งครรภ์นั้นจะถูกจัดเก็บภายหลังจากคลอดบุตรทันทีและสามารถนำไปใช้ได้กับทั้งตัวลูกน้อยและทุกคนในครอบครัว

ซึ่งสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกนั้นมีคุณลักษณะพิเศษคือสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์กระดูก กระดูกอ่อน และเซลล์ไขมันได้ นอกเหนือจากนี้สเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกยังมีความพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อได้หลายชนิด ทำให้ถูกนำไปใช้ในการฟื้นฟู ความเสื่อมโทรมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอีกด้วย

ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จึงควรมีการศึกษาและวางเเผนเก็บ Stem Cell ราคาคุ้มค่า เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพสำหรับทุกคนในครอบครัวในอนาคต

ตัวอย่างโรค ที่มีการศึกษานำสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรกมาใช้ในการฟื้นฟู

• โรคอัมพาต
• การบาดเจ็บที่คอและไขสันหลัง
• โรคพาร์กินสัน
• โรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น

---

Adipose Derived MSCs (ADSC) เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลจากไขมัน

ไขมันในร่างกายของเราเป็นแหล่งกําเนิดสเต็มเซลล์ที่สําคัญอีกแหล่งหนึ่ง คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถจัดเก็บไไขมันในร่างกายของเราเป็นแหล่งกําเนิดสเต็มเซลล์ที่สําคัญอีกแหล่งหนึ่ง คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถจัดเก็บได้ในขณะคลอดพร้อมกับจัดเก็บเลือดและเนื้อเยื่อสายสะดือ รวมถึงบุคคลที่ไม่ตั้งครรภ์ก็สามารถจัดเก็บได้ ซึ่งใช้ได้กับเจ้าของสเต็มเซลล์เท่านั้น โดยมีการจัดเก็บเพียงครั้งเดียว และสามารถเก็บไว้ใช้ได้หลายครั้ง

โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงให้เราช่วยวางแผนได้ตามความต้องการ คลิก! ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ

..ไขมันที่หลายคนคิดว่าไม่มีประโยชน์ รู้ไหมว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในไขมันนั้นมีคุณค่าอย่างมหาศาล..

ไขมันในร่างกายเป็นแหล่งต้นกำเนิดอีกแหล่งหนึ่งของสเต็มเซลล์ ที่มีการศึกษาและนำไปใช้ประโยชน์ในการฟื้นฟูความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกายที่ไม่ใช่แค่ในเรื่องของความสวยความงามเท่านั้น แต่ยังสามารถฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง ข้อเข่า และข้อเข่าเสื่อม รวมไปจนถึงฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนล้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ซึ่งในการเก็บสเต็มเซลล์มีเซนไคมอลจากไขมันนั้นมีความพิเศษตรงที่ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็สามารถจัดเก็บได้ โดยสำหรับคุณเเม่ที่ตั้งครรภ์นั้นสามารถเก็บได้ทันทีหลังคลอดพร้อมกับการจัดเก็บ Stem Cell จากเลือดสายสะดือและเนื้อเยื่อสายสะดือหรือเวลาใดก็ได้ที่ต้องการ โดยสเต็มเซลล์จากไขมันนั้นจะเป็นการเก็บเพียงครั้งเดียวแต่นำมาใช้ได้หลายครั้งและจะสามารถใช้ได้กับเจ้าของสเต็มเซลล์เท่านั้น

ตัวอย่างโรค ที่มีการศึกษานำสเต็มเซลล์มีเซนไคมอลจากไขมันมาใช้ในการฟื้นฟู

• สเต็มเซลล์หน้าใสเพื่อความงาม : ลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย ให้ผิวหน้าเต่งตึง
• โรคแพ้ภูมิตัวเอง
• ฟื้นฟูข้อเข่าและข้อต่อเสื่อมจากการที่น้ำในข้อเข่าน้อยจนมีสภาวะข้อเข่าอักเสบ
• ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจากความเสื่อมต่างๆ 
• ฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า เป็นต้น

ตัวอย่างการศึกษา เพื่อนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการฟื้นฟูโรคและอาการต่าง ๆ

จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุคปัจจุบัน ทำให้ได้มีหลากหลายองค์กรที่ให้ความสนใจและทำการศึกษาในเรื่องของการจัดเก็บสเต็มเซลล์เพื่อนำไปใช้ในการรักษาและฟื้นฟูโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคหรืออาการเรื้อรังที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและวิถีการดำเนินชีวิต

Cryoviva จึงได้รวบรวมตัวอย่างของการศึกษาเพื่อนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการฟื้นฟูโรคร้ายหรืออาการต่าง ๆ และเป็นเหมือนความหวังใหม่ของผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ โดยจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

สเต็มเซลล์กับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง 

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคทางระบบประสาทที่เมื่อเป็นแล้วจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ทำให้ในปัจจุบันได้มีการศึกษาและวิจัยในการเก็บสเต็มเซลล์และใช้สเต็มเซลล์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

โดยงานวิจัยของ Panayiota Petrou จาก Hadassah Medical Center ได้ระบุว่าการบำบัดฟื้นฟูโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง และได้รับการยอมรับในการใช้เป็นหนึ่งแนวทางในการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ (MSCs) นั้นมีแนวโน้มที่จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทสั่งการและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อให้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ Cryoviva จึงพร้อมให้คำปรึกษาในเรื่องของการเก็บสเต็มเซลล์และนำสเต็มเซลล์ไปใช้ พร้อมดูแลและช่วยวางแผนการจัดเก็บเซลล์ให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีคุณภาพและฟื้นฟูโรคต่างๆ ได้ในอนาคต

สเต็มเซลล์กับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 

เบาหวานชนิดที่ 1 (T1D) เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดหนึ่ง ที่พบได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ โดยโรคนี้นั้นเป็นหนึ่งในโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ที่เกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลาย Beta Cells ที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลินของตับอ่อน ทำให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ และหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้

ในปัจจุบันมีความหวังใหม่ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ด้วยสเต็มเซลล์ โดยมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์ Mesenchymal stem cells (MSCs) เพื่อฟื้นฟูความเสื่อมของโรคเบาหวาน และพบว่าสเต็มเซลล์นั้นทำให้การทำงานของตับอ่อนดีขึ้น เกิดการผลิตอินซูลินขึ้นได้

ซึ่งนั่นก็เป็นเหมือนสัญญาณที่บอกถึงความเป็นไปได้ที่สเต็มเซลล์จะถูกนำมาใช้ในการฟื้นฟูความเสื่อมของโรคเบาหวานได้ในอนาคต 

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บ Stem Cell และใช้สเต็มเซลล์ในการฟื้นฟูโรคต่าง ๆ สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนอนาคตด้านสุขภาพของลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวได้เลย

สเต็มเซลล์กับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์นั้นเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ผิดเพี้ยนเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อบริเวณข้อทำให้เกิดการอักเสบแบบเรื้อรัง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ข้อผุกร่อนหรืออาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยพิการได้

ในปัจจุบันจึงได้มีการศึกษาวิจัยและพบว่า MSCs หรือสเต็มเซลล์มีเซนไคมอล สามารถพัฒนาไปเป็นกระดูกอ่อนและกระดูก อีกทั้งยังช่วยควบคุมการอักเสบเรื้อรังจากการระงับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดเพี้ยนได้อีกด้วย

นั่นจึงทำให้การเก็บสเต็มเซลล์มีแนวโน้มที่จะถูกใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ในอนาคต ซึ่งหากใครสนใจหรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการเก็บสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการฟื้นฟูโรคร้ายต่าง ๆ สามารถติดต่อเข้ามาได้เลยที่ Cryoviva

ขั้นตอนเข้ารับบริการจัดเก็บ Stem Cell ที่ Cryoviva

เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการวางแผนเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังสนใจเก็บสเต็มเซลล์จากแหล่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ Cord Blood (CB), สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT), สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT)  หรือสเต็มเซลล์มีเซนไคมอลจากไขมัน Adipose Derived MSCs (ADSC) เราก็พร้อมให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้การเก็บ Stem Cell มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการนำไปใช้มากที่สุด

ซึ่งคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หรือคุณพ่อที่ต้องการมอบอนาคตทางสุขภาพที่ดีเพื่อเป็นหลักประกันให้กับลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวในอนาคต สามารถติดต่อเราเข้ามาเพื่อดำเนินการวางแผนและจัดเก็บสเต็มเซลล์ได้ตาม 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

Step 1	ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บ Stem Cell ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เพื่อวางแผนในการเข้ารับการจัดเก็บและสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Step 2	ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญของ Cryoviva เพื่อวางแผนในการจัดเก็บ  Stem Cell
Step 3	ทำข้อตกลงในการจัดเก็บ Stem Cell โดยเตรียมเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
Step 4	คุณแม่จะได้รับกล่องเก็บ Stem Cell จากทาง Cryoviva หลังจากทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์
Step 5	คุณแม่เตรียมร่างกายให้พร้อมคลอด โดยนำกล่องเก็บ Stem Cell ไปมอบให้กับโรงพยาบาล ณ วันคลอด
Step 6	รับใบรองการเก็บ Stem Cell พร้อมผลตรวจจากห้องปฏิบัติการหลังจากการเก็บ Stem Cell เสร็จสมบูรณ์
Step 7	ติดต่อ Cryoviva เมื่อต้องการใช้เซลล์ต้นกำเนิด

เก็บ Stem Cell ราคาคุ้มค่ากับเรา มั่นใจ ปลอดภัย ด้วยการรับรองมาตรฐานระดับสากล

เลือก Cryoviva ธนาคารเก็บเซลล์ต้นกำเนิดผู้นำมาตรฐานระดับสากล

เพื่ออนาคตของคุณและคนที่คุณรัก

Cryoviva มีบริการเก็บสเต็มเซลล์ราคาตามแพ็คเกจที่คุณสามารถเลือกให้เหมาะสมที่สุดทั้งในเรื่องของราคาและความต้องการในการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในอนาคต ซึ่งการเก็บสเต็มเซลล์ราคาตามแพ็คเกจนั้นจะแปรผันตามสิ่งต่าง ๆ ได้แก่ แหล่งต้นกำเนิดของสเต็มเซลล์ จำนวนเซลล์ที่ต้องการ และระยะเวลาในการเก็บรักษาเซลล์ (สำหรับบางแพ็กเกจ) 

และนอกจากราคาที่มีความคุ้มค่าแล้ว การเก็บสเต็มเซลล์กับเรายังยืนยันได้ถึงมาตรฐานและความปลอดภัย ดังนี้

✓ เป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งเดียวในไทยในปัจจุบันที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AABB ทั้งจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์
✓ ใช้ Explant Technology จากสหรัฐอเมริกา แห่งเดียวในไทย
✓ จำกัดจำนวนรอบในการเพาะสเต็มเซลล์เพื่อให้เซลล์ที่ได้รับมีคุณภาพ ไม่แก่ตัว และไม่กลายพันธุ์
✓ มีระบบการจัดเก็บทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI Technology
✓ มีการรับรองภายใต้มาตรฐาน ESQR ด้านคุณธรรมและจริยธรรม
✓ ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปลอดภัยอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้การเก็บสเต็มเซลล์ราคาคุ้มค่าของเราจึงเป็นบริการที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของราคาที่คุณสามารถเลือกเองได้ความเหมาะสม และความปลอดภัยของการดำเนินการจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ที่ได้รับรองมาตรฐานในระดับสากล

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเก็บสเต็มเซลล์ได้แล้ววันนี้ที่ Cryoviva 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนัดหมายแพทย์สำหรับการวางแผนอนาคตทางสุขภาพของลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวกับ Cryoviva

“ค้นพบทางเลือกแห่งชีวิต” ด้วยการเก็บ Stem Cell ที่ Cryoviva
วางเเผนเก็บ Stem Cell ราคาคุ้มค่ากับผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้
เพื่ออนาคตทางด้านสุขภาพที่ดีของคุณ ลูกน้อย และทุกคนในครอบครัว

ติดต่อเรา “Cryoviva” ผู้นำนวัตกรรมการเก็บสเต็มเซลล์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล