คำถามยอดฮิตของคุณแม่ตั้งครรภ์: ผ่าคลอดลูกน้อยแบบนี้มีความอันตรายอย่างไรบ้าง?
Cryoviva 🤍 ขอพาไปดูรวมคำถามยอดฮิตของคุณแม่ตั้งครรภ์ ‘ผ่าคลอดลูกน้อยแบบนี้มีความอันตรายอย่างไรบ้าง?’ โดยหมอฟลุ๊ค-นพ.ธิติพันธุ์ น่วมศิริ เจ้าของเพจ Dr.Flook หมอสูติลูกสาม
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมีความสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการดูแลตนเองในขณะตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านโภชนาการ ด้านพัฒนาการของเจ้าตัวเล็ก รวมไปถึงการคลอดที่ในปัจจุบันมีรูปแบบการคลอดทั้งการคลอดธรรมชาติ และ ‘การผ่าคลอด’ นั่นเอง
ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งคุณแม่อาจมีความกังวลใจว่าแท้จริงแล้วการผ่าคลอดจะเหมาะสำหรับลูกน้อยหรือไม่ การผ่าคลอดจะเป็นอันตรายอย่างไรบ้าง วันนี้ Cryoviva 🤍 จะขอพาคุณแม่ตั้งครรภ์ไปเช็กคำถามยอดฮิตที่ชวนสงสัย โดย ‘นพ.ธิติพันธุ์ น่วมศิริ (หมอฟลุ๊ค)’ สูตินรีแพทย์ เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลนวเวช เจ้าของเพจ Dr.Flook หมอสูติลูกสาม จะมีข้อมูลด้านใดบ้างไปดูกันเลย
แท้จริงควร ‘ผ่าคลอด’ เมื่อมีสภาวะจำเป็น
ในการคลอดเจ้าตัวเล็กในวิธีธรรมชาติ จะช่วยให้คุณแม่สามารถฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้เร็วกว่าวิธีผ่าคลอด และยังช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้รับแบคทีเรียชนิดดีและมีภูมิคุ้มตามธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 💪🏻 แต่สำหรับการผ่าคลอดนี้ควรเลือกวิธีการคลอดเมื่ออยู่ในสภาวะจำเป็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- คุณแม่มีภาวะอุ้งเชิงกรานแคบหรือเจ้าตัวเล็กมีร่างกายที่ใหญ่กว่าขนาดอุ้งเชิงกรานของคุณแม่
- ลูกน้อยไม่กลับหัว หรือไม่สามารถนำศีรษะเป็นส่วนนำได้
- ลูกน้อยมีภาวะขาดออกซิเจนหรือหัวใจเต้นผิดปก
- คุณแม่มีภาวะรกเกาะต่ำ จึงทำให้คลอดตามธรรมชาติไม่ได้
- มีเนื้องอกมาขัดขวางทางออก
- คุณแม่ตั้งครรภ์ลูกแฝด จึงไม่สามารถคลอดรูปแบบธรรมชาติได้ เป็นต้น
คุณแม่สามารถผ่าคลอดได้กี่ครั้ง จึงไม่ก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกาย
หลาย ๆ ครั้งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องที่ 2 มักมีความสงสัยว่าสามารถผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ซึ่งการผ่าคลอดสามารถทำได้หลายครั้ง แต่หากผ่าคลอดครั้งที่ 3 ขึ้นไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณแม่ได้นั่นเอง เนื่องจากในการผ่าคลอดบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดพังผืดบริเวณแผลผ่าคลอดและอวัยวะภายใน จนอาจส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะ และระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติได้นั่นเอง
เมื่อผ่าคลอดลูกคนแรกแล้ว ลูกคนต่อไปต้องผ่าคลอดอีกหรือไม่?
หากคุณแม่ที่ทำการผ่าคลอดในเจ้าตัวเล็กคนแรกแล้ว ในครรภ์ต่อไปคุณแม่ก็ต้องผ่าคลอดอีกแน่นอน เนื่องจากมดลูกมีการขยายและบีบตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ความยืดหยุ่นของมดลูกลดลง และอาจทำให้มดลูกปริแตกได้อีกด้วย การผ่าคลอดจึงเป็นทางออกสำหรับคุณแม่ที่เคยผ่าคลอดเจ้าตัวเล็กนั่นเอง
การผ่าคลอดนี้มีความอันตรายอะไรซ่อนอยู่บ้าง?
แน่นอนว่าการผ่าคลอดย่อมเป็นการทำคลอดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ตลอดเวลา 👨⚕ แต่ในการผ่าคลอดนี้ยังมีความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหลังผ่าคลอดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- อาการมดลูกแตก
- ภาวะรกเกาะแน่น
- การตกเลือดหลังคลอด
- สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิตได้ในที่สุด
นอกจากนี้การผ่าคลอดจะส่งผลให้เจ้าตัวเล็กอาจไม่ได้รับแบคทีเรียชนิดดีในปริมาณที่เพียงพอ ส่งผลถึงสุขภาพและพัฒนาของเจ้าตัวเล็กได้ในอนาคต หากคุณแม่ท่านใดต้องการผ่าตัดคลอดหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามคุณหมอเจ้าของแพทย์ได้ทันที
เทคนิควิธีดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด
หลังจากการผ่าคลอดคุณแม่จะฟื้นตัวภายใน 12 ชั่วโมง และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 4 วัน ซึ่งในช่วงระหว่างการพักฟื้นนี้ควรมั่นสังเกตุชีพจรและความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทุก ๆ 4 ชั่วโมง และเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วสามารถดูแลตัวเองได้ดังต่อไปนี้
- ควรจะดูแลแผลผ่าตัดเป็นอย่างดี ห้ามโดนน้ำโดยเด็ดขาดอย่างน้อย 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือเกร็งหน้าท้อง เพราะแผลผ่าตัดเป็นแผลสด มีโอกาสที่จะติดเชื้อ อักเสบ และปริแตกได้
- หลีกเลี่ยงการขับรถในช่วง 45 วันหลังผ่าตัดคลอด
- หลังจากที่แผลเริ่มแห้งสนิทดี ควรดูแลแผลด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินอีที่ปลอดภัยกับการให้นมลูกน้อยนั่นเอง
- เลือกใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว ไม่รัดรูป เพื่อป้องกันการเสียดสีโดนแผล
- รับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง และไม่หยุดยาเอง
เลือก Cryoviva เพื่ออนาคตของลูกน้อยและทุกคนที่คุณรัก 💙
“ไครโอวิวา ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์
ผู้นำนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล
อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว”
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับสิทธิพิเศษจากไครโอวิวา