Lifestyle Blog

การอยู่ไฟหลังคลอดมีประโยชน์อย่างไร


การอยู่ไฟหลังคลอด มีประโยชน์อย่างไร

ผู้หญิงภายหลังจากตกลงปลงใจสร้างครอบครัวใหม่กับคนรู้ใจแล้ว มีอะไรให้ต้องปรับตัว เรียนรู้ตลอดเวลา โดยนอกจากบทบาทของการเป็นศรีภรรยาแล้ว ยังมีบทบาทของ “คุณแม่”  ที่มีรายละเอียดยิบย่อยให้เรียนรู้มากมาย เพราะหลังจากคุณแม่คลอดน้องแล้ว ยังมีกิจกรรมที่นิยมปฏิบัติสืบต่อกันมา  เพื่อฟื้นฟูสุขภาพที่ดีให้กับคุณแม่คือ “การอยู่ไฟ” นั่นเอง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการดูแลสุขภาพพร้อมปรับสมดุลร่างกายให้คุณแม่หลังคลอด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พบเห็นได้ในหลายประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย รวมถึงในไทยบ้านเรา ที่นิยมทำการเช่น การนวดประคบ นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การเข้ากระโจมอบสมุนไพร หรือการนั่งถ่าน เป็นต้น ในปัจจุบันยังมีให้บริการถึงตามบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คุณแม่ที่อยู่แบบครอบครัวเดี่ยว ไม่มีญาติผู้ใหญ่ช่วยดูแลอีกด้วย

การอยู่ไฟ-อยู่เดือน

“การอยู่ไฟ” หรือบางครั้งเรียกรวมว่า “การอยู่ไฟ-อยู่เดือน” เป็นกระบวนการที่มีมาแต่โบราณ เพื่อดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายด้านต่าง ๆ ของคุณแม่หลังคลอด เพื่อปรับสมดุลเลือดลมในร่างกายของคุณแม่ให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ   โดยเชื่อกันว่าการอยู่ไฟมีประโยชน์มากมาย ช่วยขับน้ำคาวปลา กระตุ้นน้ำนม และฟื้นฟูสภาพร่างกายที่อ่อนล้าหลังคลอดให้กับคุณแม่  ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี  หากเลือดลมไหลเวียนไม่มี น้ำเหลืองไม่ดี จะทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเลือดเสียที่เกิดจากการคลอดบุตรออกมาได้หมด แล้วเลือดเสียดังกล่าวนั้นจะกลายเป็นพิษตกค้างอยู่ในร่างกายและส่งผลเสียตามมาได้  เช่น ทำให้เกิดอาการคล้ายลมพิษ  มีผื่นแดงคันเมื่ออากาศร้อน หรือเย็น มีอาการหนาวสะท้านเข้ากระดูก  มีไข้ หรือเกิดอาการในช่วงวัยถัดมา เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ  ขี้หนาว หรือมีเหงื่อออกตามมือและเท้า  เป็นต้น จากเหตุดังกล่าวทำให้ธรรมเนียมการอยู่เดือน-อยู่ไฟ ยังได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน

ประโยชน์ของการอยู่ไฟ

การอยู่ไฟหลังคลอดมีประโยชน์อย่างไรต่อผู้หญิง  สําหรับการอยู่ไฟหลังคลอดนั้น คือการพักฟื้นร่างกาย ดูแลสุขภาพของผู้หญิงแบบโบราณ ซึ่งปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยน วิธีการ รูปแบบ ให้สะดวกสบายมากขึ้น เพราะในเมืองใหญ่ เราคงไม่มีกระโจมหรือ กระท่อม หรือการสร้างเรือนไฟให้ผู้หญิงพักฟื้นสักเท่าไหร่  อีกทั้งยังมีการร่นระยะเวลาของการอยู่ไฟให้สั้นลง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังคงความเชื่อเดิมคือ การอยู่ไฟหลังคลอด นั้นมีประโยชน์ มากมาย เช่น

• การอยู่ไฟจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต
• ร่างกายจะมีการเพิ่มอุณหภูมิ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น เพราะส่วนใหญ่คุณแม่หลังคลอดมักจะมีรู้สึก หนาวเข้ากระดูดเวลาอากาศเย็น
• การอยู่ไฟสามารถลดอาการอ่อนเพลีย จากการคลอดและการเสียเลือดในช่วงคลอดลูก
• ความร้อน ความอบอุ่น สามารถลดการปวดเมื่อยตามข้อต่อต่างๆ  ช่วยให้กล้ามเนื้อ  เส้นเอ็นแข็งแรง
• การอยู่ไฟ อบสมุนไพร จะช่วยให้ผิวพรรณดี ผุดผ่อง สุขภาพดีขึ้น
• การปรับอุณหภูมิด้วยความร้อน จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคเพิ่มขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น
• การอยู่ไฟจะช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้เป็นปกติ เลือดลมไหลเวียนดี
• การปรับอุณหภูมิในร่างกายช่วยให้หน้าท้องยุบเร็ว หน้าท้องแบนเร็วขึ้น
• การอยู่ไฟหลังคลอด จะช่วยลดความเจ็บปวด เมื่อมดลูก เกิดภาวะบีบรัดตัวให้เข้าสู่ภาวะปกติ หรือที่คนโบราณมักจะพูดว่า การอยู่ไฟเพื่อให้มดลูกเข้าอู่

นอกเหนือจากนี้ การอยู่ไฟยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น  ช่วยปรับสภาพความสมดุลของร่างกาย ให้ธาตุทั้ง 4 กลับมาเป็นปกติ ช่วยให้สายตาดีขึ้น มองได้ชัดมากขึ้น ช่วยขับพิษและสารตกค้าง ขับของเสียทุกอย่างในร่างกาย ลดเสี่ยงเกิดอาการแทรกซ้อน  เป็นการพักฟื้นเพื่อสะสมกำลัง  ให้มีสุขภาพแข็งแรง  ช่วยให้สายตาดีขึ้น มองได้ชัดมากขึ้น และมีผลพลอยได้ทำให้ผิวพรรณดีขึ้น มีน้ำมีนวล ช่วยให้พุงยุบ ลดหน้าท้อง ลดไขมันในร่างกาย

การอยู่เดือนและการอยู่ไฟเป็นการทำต่อเนื่องควบคู่กันไป  โดยการอยู่เดือน เป็นการดูแลคุณแม่ตั้งแต่หลังคลอด (กรณีคลอดเอง) คุณแม่ดูแลฟื้นฟูร่างกายตัวเองหลังจากอุ้มท้องมานานและเสียพลังกายและเลือดเนื้อในการคลอดลูกน้อย โดยวิธีการที่คุณแม่ชำระล้างร่างกายด้วยน้ำต้มสมุนไพรหรือน้ำตะไคร้เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น  เลือดลมไหลเวียนดี  น้ำนมไหลสะดวก และช่วยดับกลิ่นคาวเลือดหลังจากการคลอดลูก  และควรทานของอุ่นร้อน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย  ไม่ควรสระผมเพราะหากโดนลมเย็นจะทำให้ป่วยง่ายและยังไม่ออกจากบ้านไปตากลมตากฝนที่ทำให้เสี่ยงป่วย    ห้ามยกของหนัก เพราะแผลภายในอาจยังไม่หายดี จะทำให้เกิดภาวะตกเลือดได้

จากนั้นหลังคลอด 7 วัน ถึง 3 เดือน เป็นช่วงเวลาสำหรับการอยู่ไฟกรณีคุณแม่คลอดเอง ซึ่งทำต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือทำติดต่อกันไม่เกิน 1 เดือน  สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดจะสามารถอยู่ไฟได้เมื่อเวลาเกิน 1 เดือน (แผลผ่าตัดหายแล้ว)  แต่ไม่ควรเกิน 3 เดือน โดยทำการอยู่ไฟทุกวัน ติดต่อกันได้ไม่เกิน 1 เดือน

ปัจจุบันการอยู่ไฟใช้วิธีอะไรบ้าง 

การนวดประคบ

โดยทั่วไปเป็นการประคบร้อนเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้า โดยนำเอาสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย เช่น ว่านชักมดลูก ไพล ผิวมะกรูด ตะไคร้ ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย เกลือแกง การบูร พิมเสน ว่านนางคำ ใบมะขาม ใบส้มป่อย ส้มเสี้ยว ว่านน้ำ และอื่น ๆ นำมาประคบตามจุดต่างๆ ของกล้ามเนื้อที่เกิดตึงปวด ในช่วงขณะตั้งครรภ์ ขณะที่กลิ่นของน้ำมันหอมระเหย  จะระเหยออกมาเมื่อถูกความร้อน จะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายอีกทางหนึ่ง   

การนวดประคบจะช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายสบาย เพราะเนื้อเยื่อพังผืดยืดขยายออก ข้อต่อผ่อนคลาย ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดอาการบวมจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และยังจะช่วยกระตุ้นและทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ  

การนวดกล้ามเนื้อจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้คุณแม่ ช่วยลดอาการตึงและอาการเมื่อยล้าที่เกิดจากการที่คุณแม่อุ้มท้องมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อหลัง ที่ต้องแอ่นโค้งเพื่ออุ้มน้ำหนักลูกในท้อง  ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการเมื่อยล้าและยังมีผลช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายได้

การอบสมุนไพร

การเข้ากระโจมอบสมุนไพรหรือตู้อบสมุนไพร เป็นอีกวิธีที่นิยมทำกัน โดยคุณแม่หลังคลอดเข้าไปอยู่ในห้องที่ปิดมิดชิด หรือในกระโจมโดยมีหม้อต้มน้ำสมุนไพรตั้งอยู่ภายในเพื่อให้ความร้อนทำหน้าที่ขับของเสียออกทางผิวหนัง

ความร้อนจากน้ำสมุนไพรจะช่วยให้รูขุมขนเปิด ขับเอาของเสียภายในร่างกายออกมา ไม่ว่าจะเป็นน้ำเหลืองเสีย น้ำคาวปลา จะถูกขับให้หมดไปได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันสมุนไพรที่ซึมผ่านผิวหนังจะช่วยบำรุงผิวพรรณและร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน  ช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินหายใจ ลดอาการภูมิแพ้  ร่างกายแข็งแรงขึ้น และช่วยให้ดวงตาสว่างสดใส ไม่ฝ้ามัว

สมุนไพรที่ใช้ เช่น ไพล ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ตะไคร้ ผิวมะกรูด ว่านน้ำ ว่านชักมดลูก ว่านมหาเมฆ ว่านนางคำ ใบเปล้าหลวง ใบมะขาม ผักบุ้ง ผลส้ม ใช้เวลาอบประมาณ 20 นาที หลังอบให้ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วนั่งพักให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปอาบน้ำ
*แต่คุณแม่ควรวัดความดันก่อนเข้าอบตัว เพราะหากมีภาวะความดันสูงไม่ควรอยู่ไฟด้วยวิธีนี้

อาบน้ำสมุนไพร

การอาบน้ำสมุนไพร เป็นการชำระล้างเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย เนื่องจากคุณแม่หลังคลอดจะมีกลิ่นอับชื้น กลิ่นตัวค่อนข้างแรง แถมยังมีกลิ่นคาวจากน้ำคาวปลาที่ไหลออกมาตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จึงควรอาบน้ำสมุนไพรติดต่อกันเป็นเวลา 7–30 วัน ใช้วิธีตักราดทั่วตัว ไม่ใช่นอนแช่ในอ่างน้ำ เพราะมีความเสี่ยงเกิดแผลฝีเย็บยังไม่แห้งสนิทและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การอาบน้ำสมุนไพรจะช่วยให้ร่างกายสะอาด สดชี่น ดับกลิ่นคาว เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณแม่ได้ใหม่อีกครั้ง 

สมุนไพรที่ใช้ รวมถึง ไพล ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ใบมะขาม ผลส้ม เปลือกส้มโอ ผลมะกรูด ผักบุ้ง ตะไคร้

 ข้อพึงระมัดระวังในการอยู่ไฟ

จะเห็นได้ว่า การอยู่ไฟสำหรับคุณแม่หลังคลอดมีหลากหลายวิธี ซึ่งล้วนเป็นวิธีที่จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ ให้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นและเลือดไหลเวียนดี 

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่า คุณแม่ทุกคนสามารถอยู่ไฟได้ โดยหากคุณแม่ท่านใดมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคลมชัก โรคไต ไม่สามารถอยู่ไฟได้หรือคุณแม่มีภาวะตกเลือด และมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียลก็ไม่สามารถทำได้

นอกจากนี้ยังต้องรอ ให้ครบ 7 วันก่อนจึงค่อยอยู่ไฟ และควรอยู่ไฟในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีแสงสว่างเพียงพอ ไม่ควรก่อไฟให้ร้อนหรือลุกโชนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังพุพองได้ ที่สำคัญคุณแม่ ไม่ควรนำน้องเข้าไปอยู่ไฟด้วย เพราะความร้อนจะทำให้น้องเพิ่งคลอดใหม่ ๆ เสียน้ำและเกลือแร่มากจนเป็นอันตรายได้  

ขณะเดียวกันคุณแม่ยังต้องคอยสังเกตอาการตัวเองด้วยว่า มีอาการอ่อนเพลีย อ่อนล้า หรือเหนื่อยผิดปกติหรือไม่ เพราะหากยังอ่อนเพลียควรหยุดการอยู่ไฟไว้ก่อน และไม่ใช้ฟืนไม้ตาด ฟืนไม้รัก และฟืนไม้แดง เพราะเมื่อนำมาเผาอาจทำให้ไฟแตกกระเด็นเป็นควันแสบตา หรือกลุ่มไม้เนื้ออ่อนก็ไม่ควรนำมาใช้เพราะอาจทำให้เกิดควันมากเกินไป  เช่น มะม่วง ขนุน  เป็นต้น 

หรือหากไม่สะดวกทำเอง ในยุคสมัยนี้ คุณแม่อาจเลือกใช้บริการพิเศษแพ็คเกจอยู่ไฟถึงบ้าน ซึ่งสะดวกสบายสำหรับคุณแม่ที่อยู่อาศัยแบบครอบครัวเดี่ยว ไม่สะดวกในการไปจับจ่ายซื้อหาสิ่งของและ ไม่มีคนเลี้ยงน้อง  หรือไปใช้บริการกับคลินิกแพทย์แผนไทยที่เปิดให้บริการได้ทั่วไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่เองและจะส่งผลดีถึงคุณลูกด้วยเช่นกัน

ขอให้อยู่ไฟกันอย่างปลอดภัย และกลับมาฟิตแอนด์เฟิร์มไวไวนะคะ

นอกจากการอยู่ไฟหลังคลอดที่มักทำกันช่วง 1-2 เดือนหลังคลอด อีกศาสตร์หนึ่งที่เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูร่างกายและคืนความอ่อนเยาว์ในระยะยาวให้กับคุณแม่หลังคลอดได้อย่างยอดเยี่ยม ก็คือการนำสเต็มเซลล์แรกเกิดของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกจัดเก็บไว้เพื่อดูแลฟื้นฟูสุขภาพจากภาวะโรคเสื่อมต่าง ๆ ร่วมถึงเรื่องการชะลอวัยคืนความอ่อนเยาว์สำหรับทุกคนในครอบครัว  ทั้งนี้การนำสเต็มเซลล์มาใช้เพื่อฟื้นฟูร่างกายสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีภาวะเจ็บป่วย  เพียงแค่คุณแม่มีความรู้สึกอยากคืนความสดใส ต้องการเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกายเพื่อทดแทนช่วงเวลาที่อุ้มท้องและช่วงที่ต้องให้นมลูกน้อย หรือหากคุณแม่มีภาวะร่างกายอ่อนแอลง หรืออาจมีภาวะโรคภูมิแพ้หลังคลอด การใช้สเต็มเซลล์เพื่อฟื้นฟูควบคู่กับการรักษาก็เป็นประโยชน์มาก ๆ ทั้งนี้ในวันนี้นวัตกรรมเต็มเซลล์เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะนอกจากคุณแม่จะสามารถใช้สเต็มเซลล์ที่ได้จากการเก็บเนื้อเยื่อจากสายสะดือของลูกน้อยแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีโอกาสที่ใช้สเต็มเซลล์ที่มาจากไขมันของตัวเองที่ได้ทำการจัดเก็บไว้เมื่อวันผ่าคลอดลูกน้อยได้อีกด้วย   ซึ่งสเต็มเซลล์จากไขมันของคุณแม่มีจุดเด่นในเรื่องศาสตร์ชะลอวัยได้อย่างเห็นผลดีเยี่ยม ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก
Youtube : คุณแม่เลอค่า
http://www.melamaru.com
http://www.pregnancycarethailand.com/
https://www.pobpad.com/
https://th.theasianparent.com/
ภาพแม่อยู่ไฟแบบโบราณ จาก https://xfile.teenee.com/tamnan/2800.html

..เพราะ Cryoviva ห่วงใยสุขภาพของคุณและลูกน้อยในครรภ์.. 

ศึกษาข้อมูลสเต็มเซลล์ได้ต่อที่นี่

คลิกที่นี่

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

สร้างเสริมน้ำนมคุณแม่ด้วยผักนานาชนิด

  Cryoviva ชวนคุณแม่มาเสริมสร้างคุณภาพน้ำนมด้วยผัก […]

0 comments

คุณแม่ตั้งครรภ์กับปัญหาท้องลายที่แก้ได้ไม่ยาก

บอกลาปัญหารบกวนใจ ท้องแตกลายในคุณแม่ตั้งครรภ์แก้ได้ไม่ย […]

0 comments
การป้องกันภูมิแพ้ในคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อย

การป้องกันภูมิแพ้ในคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อย

การป้องกันภูมิแพ้ในคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อย #สาระน่ารู […]

0 comments

See other

“ไครโอวิวา ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์
ผู้นำนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล
อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว”

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับสิทธิพิเศษจากไครโอวิวา



    มีความสนใจบริการด้านไหนของไครโอวิวาเป็นพิเศษหรือไม่?

    This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.