Medical Blog

การเก็บสเต็มเซลล์ แนวทางการฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งระบบเลือด

การเก็บสเต็มเซลล์

ในปัจจุบันการเก็บสเต็มเซลล์เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือด ซึ่งการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคนั้นต้องเริ่มจากการเก็บ Stem Cell และปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยแล้ว ร่างกายของผู้ป่วยจะได้รับการฟื้นฟูเพื่อลดโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำ เรียกได้ว่าการเก็บสเต็มเซลล์นี้เป็นเสมือนอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งระบบเลือดในการฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี

เนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ทำให้มีการศึกษา วิจัย และพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมแนวทางในการรักษาผู้ป่วยให้มีความหวังและมีโอกาสในการฟื้นฟูตัวเองจากโรคร้ายต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการใช้เซลล์ต้นกำเนิดหรือการเก็บสเต็มเซลล์นั่นเอง

วันนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรค และเราสามารถใช้สเต็มเซลล์เพื่อฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยมะเร็งระบบเลือดได้อย่างไร

ฉีดสเต็มเซลล์รักษาโรค

บทบาทของสเต็มเซลล์ต่อการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือด

จากโรคร้ายสู่แนวทางของการรักษาที่แตกต่างกัน โรคมะเร็งระบบเลือดคือหนึ่งในโรคที่ทางการแพทย์ให้ความสนใจและมองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูผู้ป่วยให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งมีแนวทางในการรักษาโรคมะเร็งระบบเลือด อาทิ การใช้ยารักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted therapy) และนอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งแนวทางการรักษา นั่นคือการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการฟื้นฟูระบบเลือด (Stem Cell transplantation) 

เนื่องจากสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดคือเซลล์ที่มีความสามารถในการแบ่งตัวเพิ่มจำนวน รวมทั้งยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราได้ โดยสเต็มเซลล์นั้นมีหลากหลายชนิดตามแหล่งต้นกำเนิดที่แตกต่างกัน และในแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคและนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
จะเห็นได้ว่าสเต็มเซลล์เป็นเซลล์มหัศจรรย์ที่มีประโยชน์มากมาย และสามารถจัดเก็บสเต็มเซลล์จากแหล่งต้นกำเนิดที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ ได้มีการรับรองทางการแพทย์แล้วว่าสเต็มเซลล์จากไขกระดูกและสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือของทารกแรกคลอดนั้นสามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้ ทำให้การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือหรือการปลูกถ่ายไขกระดูกถือเป็นหนึ่งในแนวทางการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือด

ซึ่งหนึ่งในบทบาทของการเก็บสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือดที่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าสามารถฟื้นฟูโรคได้จริงนั่นคือ ‘การใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน’ นั่นเอง

การใช้สเต็มเซลล์รักษาโรค

การเก็บสเต็มเซลล์กับการ ‘รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน’

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 

  • มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันมัยอิลอยด์ 
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันลิมฟอยด์

ในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันทั้ง 2 ชนิดมีวิธีหลัก ๆ อยู่ 2 รูปแบบ คือ การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดและการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรค

การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันด้วยการใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือหรือการปลูกถ่ายไขกระดูกนั้นมักจะดำเนินการภายหลังจากการรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัด โดยผู้ป่วยจะทำการรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัดก่อน แล้วจึงปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือหรือการปลูกถ่ายไขกระดูก เนื่องจากหลังทำเคมีบำบัดแล้วเซลล์เม็ดเลือดจะถูกทำลาย และระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยจะลดลง ทำให้มีการใช้ ‘สเต็มเซลล์เม็ดเลือด’ เพื่อฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายไป

 แนวทางการเลือกฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือดด้วยสเต็มเซลล์

ก่อนการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อใช้ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็ง จะต้องมีการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือโดยธนาคารสเต็มเซลล์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล หรือต้องรอรับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อเข้ากันได้ 100% และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 

โดยการเก็บ Stem Cell จากเลือดสายสะดือนั้น หากได้รับการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากทารกตั้งแต่แรกคลอด เซลล์เหล่านั้นจะสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับตัวเด็กเจ้าของเลือดสายสะดือ อีกทั้งยังมีโอกาสมากถึง 25% หรือ 1 ใน 4 ที่เนื้อเยื่อจากสเต็มเซลล์จะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับพี่น้องของเด็กคนนั้น ๆ นั่นจึงทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หรือผู้ที่ต้องการมีบุตรควรวางแผนการเก็บสเต็มเซลล์ของลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอด เพื่อมีสเต็มเซลล์ไว้ใช้ยามฉุกเฉินหากลูกน้อยหรือพี่น้องของเด็กป่วยเป็นโรคร้ายต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งระบบเลือด 

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่ไม่ได้จัดเก็บสเต็มเซลล์เมื่อแรกคลอดไว้ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายด้วยวิธีการใช้สเต็มเซลล์ได้เช่นกัน เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้จะแบ่งเป็น 3 ทางเลือก ได้แก่ 

  1. ใช้สเต็มเซลล์ของตัวผู้ป่วยเอง ในกรณีที่คุณแม่ได้ทำการเก็บ Stem Cell ของเด็ก (ผู้ป่วย) ไว้ตั้งแต่แรกคลอด
  2. การใช้สเต็มเซลล์จากพี่หรือน้องที่ได้เก็บไว้เมื่อแรกคลอด โดยจะต้องตรวจสอบความเข้ากันของเนื้อเยื่อก่อน เพราะหากเนื้อเยื่อไม่เข้ากันอาจทำให้การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
  3. การใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์จากผู้บริจาค โดยการตรวจสอบความเข้ากันของเนื่อเยื่อสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่ขึ้นทะเบียนกับสภากาชาดไทย ซึ่งโอกาสที่จะพบผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้กับผู้ป่วยนั้นมีเพียง 1 ใน 50,000 – 100,000 คนเท่านั้น

โรคอื่น ๆ ที่มีการศึกษาเพื่อนำสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือมาใช้ในการฟื้นฟู

ถึงแม้ว่าการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือมักจะถูกใช้ในการปลูกถ่ายเพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือด แต่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะในปัจจุบันมีการศึกษาและมีงานวิจัยที่ยืนยันได้ว่าสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ Cord Blood (CB) สามารถช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้มากถึง 85 โรค จากกลุ่มโรคต่าง ๆ เหล่านี้

  •  กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ
  •  กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  •  กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดง
  •  กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหาร

——————————

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันการใช้สเต็มเซลล์เป็นหนึ่งในแนวทางการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบเลือดให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและลดโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์จะทำให้มีแนวทางการรักษาโรคร้ายต่าง ๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย ทุกคนจึงควรวางแผนอนาคตทางสุขภาพเพื่อรับมือกับโรคร้ายต่าง ๆ ศึกษาการเก็บสเต็มเซลล์ราคาที่เหมาะสม และมองหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองได้หากมีโรคร้ายเกิดขึ้น

คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถวางแผนการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือตั้งแต่แรกคลอดกับ Cryoviva ในวันนี้เพื่อโอกาสทางสุขภาพในการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคในอนาคตให้กับลูกน้อยและครอบครัว


See other

“ไครโอวิวา ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์
ผู้นำนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล
อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว”

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับสิทธิพิเศษจากไครโอวิวา



    มีความสนใจบริการด้านไหนของไครโอวิวาเป็นพิเศษหรือไม่?

    This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.