Cryoviva ขอแชร์ 4 โรคติดเชื้อที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
Cryoviva ขอแชร์ 4 โรคติดเชื้อสุดอันตราย ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม
ในตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์นี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ย่อมดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองเป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกนี้ได้มีพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ปราศจากความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายต่าง ๆ อีกด้วย แต่นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังมีความเสี่ยงอีกหลากหลายรูปแบบที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้
นั่นก็คือ ‘ความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อ’ ที่ในบางครั้งก็มาในรูปแบบความเสี่ยงที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิด หรือบางครั้งก็อาจมาจากร่างกายของคุณแม่เอง ในวันนี้ Cryoviva 🤍 จะขอมาแชร์ 4 โรคติดเชื้อสุดอันตรายที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้ามมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. โรคสุกใส
หรือที่หลาย ๆ คนคุ้ยเคยกันในชื่อของ ‘โรคอีสุกอีใส’ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) ชนิดเดียวกับโรคงูสวัด โดยโรคสุกใสนี้จะติดต่อจากการหายใจและสัมผัสเอาเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไป ทำให้ร่างกายมีตุ่มคัน หายใจติดขัด เจ็บที่หน้าอก อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง มีไข้สูง มีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาการเลือดออกทางช่องคลอดถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดอีกด้วย
หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคสุกใสนี้ อาจทำให้ลูกน้อยพิการได้ อาทิเช่น แขนขาผิดปกติ จอประสาทตาอักเสบและตาบอดได้ ลำไส้ตีบฝ่อเป็นช่วงๆ และมีความผิดปกติของระบบประสาท เป็นต้น ในปัจจุบันโรคสุกใสสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน แต่ไม่สามารถฉีดได้ในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่จึงควรดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคสุกใสนั่นเอง
2.โรคหัดเยอรมัน
อีกหนึ่งในโรคที่เกิดเชื้อไวรัสเช่นเดียวกับโรคสุกใสที่ติดต่อจากการที่คุณแม่ตั้งครรภ์เอาน้ำลายและละอองน้ำมูกของผู้ป่วยเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งโรคหัดเยอรมันนี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากคุณแม่ แต่กลับส่งผลถึงลูกน้อยในครรภ์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ลูกน้อยมีอาการตาเป็นต้อกระจกหรือต้อหิน หูหนวก หัวใจพิการแต่กำเนิด ตัวเล็กกว่าปกติ เกล็ดเลือดต่ำ ตับ ม้ามโต และมีความผิดปกติทางสมอง หรืออาจเสียชีวิตเพราะติดเชื้อได้เลยทีเดียว
ซึ่งแนวทางการป้องกันโรคหัดเยอรมันนี้สามารถทำได้ด้วยการที่คุณแม่ควรฉีดวัคซีนตั้งครรภ์ในวัยเด็กหรือวัยรุ่น หรือน้อยที่สุดคือการฉีดวัคซีนก่อนตั้งครรภ์ 3 เดือน นอกจากนี้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความแออัด หรือหากมีความปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที
3. อาการตกขาวระหว่างตั้งครรภ์
แท้จริงแล้วอาการตกขาวระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติสำหรับคุณแม่ เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์นี้มดลูกของคุณแม่จะมีการผลิตตกขาวขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคต่าง ๆ ลุกลามเข้าสู่ร่างกาย แต่หากคุณแม่มีอาการตกขาวที่ผิดปกติ มีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณช่องคลอด หรือแม้กระทั่งตกขาวมีปริมาณมากจนเกินไปอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายนั่นเอง
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดนั่นก็คือการดูแลสุขภาพอนามัยของจุดซ่อนเร้นเป็นอย่างดี ไม่สวนล้างช่องคลอดหรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางในขณะตั้งครรภ์ ทั้งนี้หากคุณแม่ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี จะช่วยให้ลูกน้อยลืมตาดูโลกด้วยสุขภาพที่แข็งแรงสมวัยได้อีกด้วย
4. โรคขี้แมว
หรือที่หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยในชื่อของ ‘โรคไข้ขี้แมว’ ซึ่งการจากเชื้อปรสิตที่มีชื่อว่า Toxoplasma Gondii โดยเชื้อดังกล่าวสามารถพบได้ในมูลของแมว เนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ถึงปกติโรคขี้แมวอาจไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่โรคขี้เมวนี้อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้มากกว่าที่คิด โดยคุณแม่ที่ได้รับเชื้อชนิดนี้จะส่งผลให้ลูกน้อยมีอาการชัก ตับโต ม้ามโต ดีซ่าน ติดเชื้อที่ดวงตาจนตาบอด หรืออาจส่งผลให้การภาวะแท้งได้ในที่สุด
วิธีป้องกันโรคขี้แมวนี้ นั่นคือการหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงช่วงระหว่างตั้งครรภ์ หมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี รวมถึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อด้วยการรักษาสุขอนามัยทั้งของตนเอง และจัดสภาพแวดล้อมให้สะอาดอีกด้วย
“ไครโอวิวา ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์
ผู้นำนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล
อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว”
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับสิทธิพิเศษจากไครโอวิวา
